ที่นี่...เมืองโบราณเฟิ่งหวง

สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคน วันนี้จะพาไปเดินเล่นในเมืองที่มีอุณหภูมิประมาณห้องแอร์ มีภูมิศาสตร์และสถาปัตยกรรมโบราณ
เฟิ่งหวง มีความหมายว่า นกหงส์
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกของมณฑลหูหนาน โดยเมืองถูกสร้างขึ้นในช่วงสมัยราชวงศ์ชิง นับเป็นเมืองโบราณที่มีประวัติความเป็นมาที่เก่าแก่ ตัวเมืองนั้นถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขาและทุ่งนาที่สวยงาม ประชากรที่อาศัยอยู่ภายในเมืองโบราณแห่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นชนเผ่าถู่เจียและชาวม้ง
เมืองเฟิ่งหวง เป็นเมืองเล็กๆ ที่เพิ่งค้นพบได้ไม่นานนัก เป็นเมืองที่สามารถเดินเที่ยวได้ทั่วเมือง ภายในเมืองนั้นจะแบ่งเป็นเมืองเก่ากับเมืองใหม่ เมืองเก่าสร้างขึ้นตามเชิงเขาและมีลำน้ำถัวเจียงไหลผ่าน มีถนนที่ปูด้วยหินเขียว 20 กว่าสาย มีกำแพงเมืองโบราณตั้งอยู่ริมน้ำ มีหงเฉียวซึ่งเป็นสะพานโบราณที่มีหลังคาคลุมเชื่อมสองฟากฝั่งให้เป็นหนึ่งเดียว
การเดินทางของผมในครั้งนี้ ผมนั่งเครื่องลงที่ฉางซา หารถไปจางเจียเจี้ย จากนั้นต่อรถอีก 5 ชั่วโมงก็จะถึงเมืองเฟิ่งหวงแห่งนี้
เฟิ่งหวง ตอนนี้ถือได้ว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกแห่งที่มีส่วนผสมของเมืองเก่าและเมืองรับแขกได้ลงตัว มีแสงสีจากร้านค้า บางมุมมีร้านนั่งชิลด์ มีร้านปิ้งย่างหม่าล่าอร่อยมาก แต่จุดเด่นแบบสุดๆ คือ บ้านเรือนริมแม่น้ำ ซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างแต่ครั้งโบราณที่ยังคงสภาพดีมาก ใครที่ชอบดูหนังจีนกำลังภายใน สมัยจอมยุทธต่างๆ คือ ที่นี่บ้านเรือนเป็นแบบนั้นเลยแหละ ถ่ายรูปสนุกและเพลินจนลืมเวลาเลยทีเดียว ดูจากภาพที่ผมถ่ายมาได้
ผู้คนที่นี่ โดยเฉพาะคนเฒ่าคนแก่ ยังคงใช้วิถีชีวิตเหมือนเดิม เช่น การจับปลา การทำเกษตรกรรม เพิ่มเติม คือ นำมาขายให้นักท่องเที่ยวตามข้างทางด้วย อัธยาศัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ถ่ายรูปได้ตามสบายด้วย ผมถ่ายกี่คนก็มีแต่คนยิ้มให้ สบายใจจัง
อ้อ เด็กๆ ที่นี่ก็น่ารักนะครับ ตัวจ้ำม่ำทั้งนั้น ส่วนสาวๆ นี่สวยเด็ดขาด (ส่วนใหญ่เป็นสาวม้ง ทำเอาผมอยากจะผิดผีไปหลายครั้ง แต่ต้องหักห้ามใจ เดี๋ยวจะไม่ได้กลับไทย)
อาหารการกิน ผมยกหมดใจให้ปิ้งย่างหม่าล่า แกล้มกับเบียร์เย็นๆ นั่งกินริมแม่น้ำถัวเจียง ท่ามกลางบรรยากาศเย็นเฉียบ มันดีมากจริงๆ รับรองใครมาเที่ยวเมืองนี้ ไม่จำเป็นต้องพกมาม่า น้ำพริกให้หนักกระเป๋า เพราะนอกจากปิ้งย่างจะดีงามมากแล้ว อาหารตามร้านอาหารละแวกนี้ก็รสชาติถูกจริตคนไทยได้ไม่ยาก
จากที่ผมสังเกตพฤติกรรมของคนไทยที่ไปเที่ยวเมืองจีนในเส้นทางแถบนี้ มักจะไปสุดกันที่เขาอวตาร หรือจางเจียเจี้ย ซึ่งหากเพื่อนๆ อ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้ว ผมก็อยากจะบอกทุกคนว่า ลางานเพิ่มอีกสักสองวัน นั่งรถต่อเลยไปที่เฟิ่งหวงเถอะ
เพราะ...คุณจะหลงรักเมืองนี้และจำฝังใจประทับจิตมิรู้ลืม
Advertising