รอยยิ้มของผู้พิชิต ปั่นข้ามสะพานโกลเด้นเกต

ได้ ‘เห็น’ สะพานโกลเด้นเกตผ่านหลังอานขณะขี่จักรยานข้ามสะพานไปอีกฟากฝั่งเมืองซานฟรานซิสโก ชวนตื่นเต้นกว่าทุกภาพที่เคยเห็นมา
Golden Gate Bridge จุดท่องเที่ยวและเช็กอินอันดับต้นของเมืองซานฟรานซิสโก
ใช่...ถึงจะเคยเห็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา มาครั้งแล้วครั้งเล่าจากหน้าหนังสือ นิตยสาร โทรทัศน์ ภาพยนตร์ อินเทอร์เน็ต รูปถ่าย แต่การได้มองเต็มๆ ผ่านสองตาและแรงขับเคลื่อนของจักรยานนั้น ชวนตื่นเต้นจริงๆ
สะพานโกลเด้นเกตเคยเรียกกันว่า ‘สะพานที่ไม่อาจสร้างได้’ เพราะใช้เวลามากกว่าสิบปี วางแผนและก่อสร้างจริงร่วมสี่ปี ที่ต้องเอาชนะความทรหดของธรรมชาติอย่างลมรุนแรง หมอก หินผา และกระแสน้ำอันตราย
ความกว้างของสะพานโกลเด้นเกตอยู่ที่ 90 ฟุต (27 เมตร) โดยบาทวิถีกว้าง 10 ฟุต (3 เมตร)
นัยว่าซานฟรานซิสโกเป็นเมืองหนึ่งที่ ‘เป็นมิตรกับจักรยาน’ มีคนขี่จักรยานผ่านไป-มาให้เห็นทุกหนแห่ง เส้นทางจักรยานพาดผ่านทั่วเมือง ร้านเช่าซื้อจักรยานหาไม่ยาก ทัวร์เมืองด้วยจักรยานยิ่งเยอะ แบรนด์จักรยานเมดอินซานฟรานซิสโกขายดิบขายดี ที่จอดจักรยานตามย่านต่างๆ ก็ไม่ใช่แค่ราวเรียงๆ เหมือนกันไปหมด
เวลาเดินตลาด ให้จูงจักรยาน เพื่อไม่เป็นการรบกวนหรืออาจชนคนอื่นได้
บางจุดออกแบบให้สวยเตะตาจนเป็นงานศิลปะบนท้องถนน ขนส่งสาธารณะยังเอื้อต่อสองล้อ ในสถานีรถไฟใต้ดินมีราวจอดจักรยาน หรือจะเข็นขึ้นรถไฟโดยสารไปก็มีพื้นที่พิงจักรยานภายในตู้ขบวน รถเมล์ของเมืองมีรางจักรยานด้านหน้ารถ จะเอาจักรยานขึ้นรถเมล์ก็แจ้งคนขับก่อนดึงรางจักรยานลงวางตามแนวนอน ยกจักรยานขึ้นวางตรงรางให้ล้อหน้าลงล็อก แล้วเดินขึ้นรถเมล์ โดยสารไปพร้อมกัน ตอนลงรถก็แจ้งคนขับก่อนเอาจักรยานลง แล้วพับรางเก็บตามแนวตั้งขนานด้านหน้ารถ ได้ลองใช้บริการแล้ว ยกนิ้วให้เลย
ที่จอดจักรยานมีดีไซน์หน้าศาลาว่าการซานฟรานซิสโก
หลังก๋วยเตี๋ยวเฝอชามใหญ่ใกล้บ้านเพื่อนที่เราไปขอปันโซฟานอนในเขตซันเซ็ต (Sunset District) ที่บ้านเรือนสีพาสเทลตั้งเรียงจากเนินสูงลงมาจรดถนนเกรตไฮเวย์ (Great Highway) ริมมหาสมุทรแปซิฟิก เพื่อนให้ยืมจักรยาน (จึงประหยัดค่าเช่าจักรยานวันละ 30 ดอลลาร์สหรัฐฯ) แล้วขี่ไปรอรถเมล์กันที่ป้าย เพื่อทุ่นกำลังแทนการปั่นตรงร่วมสิบกิโลเมตรจากซันเซ็ตไปสะพานโกลเด้นเกต
ใช้ถนนร่วมกัน
รถเมล์จอดป้ายที่ศูนย์ต้อนรับ (Golden Gate Bridge Welcome Center) อันคึกคักด้วยผู้คน ร้านค้า และมีจุดชมวิว (Vista Point) ให้ได้ชื่นชมสะพานข้ามช่องแคบโกลเด้น (Strait of the Golden Gate) ที่เชื่อมระหว่างเขตเพรสิดิโอ (Presidio) ของซานฟรานซิสโก กับเขตมารินเฮดแลนด์ (Marin Headlands) ของเคาน์ตีมาริน
ขนจักรยานขึ้นรถเมล์โดยสารไปพร้อมกับคน
พื้นที่ให้พิงจักรยานภายในขบวนรถไฟใต้ดิน
เราขี่อุ่นเครื่องรายรอบบริเวณก่อนจะตรงเข้าเส้นทางเดิน/ ปั่น Coastal Trail/ San Francisco Bicycle Route 95 บนสะพานแขวนที่มีความยาว 1.7 ไมล์ (2,737 เมตร) ยึดตรึงไว้ด้วยหอคอยคู่สูง 746 ฟุต (227 เมตร) สายเคเบิลคู่ที่แต่ละสายยาว 7,650 ฟุต (2,332 เมตร) ค่าที่เป็นเส้นทางใช้ร่วมกับคนเดิน ซึ่งคลาคล่ำด้วยนักท่องเที่ยว จึงขี่ได้ไม่เร็วนัก ไหนจะหยุดถ่ายรูปกันอีก แต่สายลมที่โบกพลิ้วผ่านสองแรงปั่นทำให้เราขี่ไปยิ้มไปอย่างผู้พิชิต
ขี่จักรยานบนสะพานด้วยความระมัดระวัง และให้ทางคนเดินเสมอ
มีช่วงกลางๆ สะพานที่รู้สึกว่าต้องไต่ระดับความสูงสักหน่อย แต่เพื่อนผู้ผ่านทางมาแล้วหลายรอบขี่ไปอย่างฉิว ให้เราได้ออกแรงปั่นตามจนเข้าจังหวะฉิวไปถึงอีกฟากสะพานที่รางวัลรออยู่ด้วยจุดชมวิวสะพานในฉากหลังเมืองซานฟรานซิสโก
พกขวดน้ำดื่มไปเองเพื่อลดการใช้พลาสติกครั้งเดียวทิ้ง
ดื่มน้ำกินขนมชมวิวจนหายหอบ เพื่อนส่งทางเลือกมาให้ว่า จะปั่นไต่เขาเข้าเนินสูงของมารินเฮดแลนด์ หรือปั่นกลับสะพานไปเส้นทางเลียบชายหาดมารีน่าจนถึงเขตนอร์ธบีช (North Beach) ที่มีท่าเรือ 39 (Pier 39) กับท่าเรือฟิชเชอร์ (Fisherman’s Wharf) เป็นย่านกินดื่มคึกคัก เราเลือกอย่างหลังเพราะชอบสายลมล้อชายทะเล อีกทั้งเป็นเวลาบ่ายคล้อยที่พระอาทิตย์เริ่มโรยตัวลง
ใกล้ค่ำหน้าอ่าวซานฟรานซิสโก
ห้วงที่เราปั่นข้ามสะพานอีกรอบ แสงอาทิตย์สะท้อนสะพานให้ภาพละมุน ขณะที่เราไล่สายตาผ่านสายเคเบิลเส้นหนาไปจรดน้ำทะเลเบื้องล่าง แล้วรีบกลับมาจดจ่อกับเส้นทางที่ทั้งคนเดินคนปั่นสวนทางมาไม่ขาดสาย วิวจากหลังอานยังทำให้ยิ้มได้ไม่หุบ
ยิ่งปะทุความสวยขึ้นไปอีกเมื่อปั่นลงจากสะพาน เลี้ยวเข้าเส้นทางเลียบชายหาด Marine Drive ผ่านลานกว้างคริสซี่ (Crissy Field) ไปจนถึงฟอร์ตเมสัน (Fort Mason Center) แสงสีทองสาดส่องให้เห็นท้องฟ้าที่พระจันทร์เริ่มลอยขึ้นเด่น จึงขี่ไปหยุดชมวิวกันไปอย่างไม่เร่งร้อน
จุดชมวิวสุดถนน Marine Drive
ยามเย็นที่ฟอร์ตเมสัน
แต่แล้วท้องก็เริ่มร้องหาคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน แฮมเบอร์เกอร์ก้อนใหญ่ของร้าน In-N-Out Burger ไม่เคยทำให้ผิดหวัง มิลค์เช็กรสช็อกโกแลตเข้มข้นทำให้สดชื่นขึ้นมาก ปิดท้ายด้วยการรีบขึ้นรถเมล์ เอาจักรยานไปเก็บบ้าน แล้วออกไปบาร์ใกล้ๆ ดื่มฉลองให้กับระยะทางปั่นยี่สิบกว่ากิโลเมตรของวันนี้!
Advertising