The Christmas Day วันฮาเฮแสนอบอุ่นของชาวคริสต์ทั่วโลก

ความทรงจำอันเลือนรางจำได้ว่า วันหนึ่งตอนเรียนอนุบาล คุณครูให้เขียนการ์ดถึงฝรั่ง 2 คน คนหนึ่งชื่อเจมส์ แต่อีกคนจำไม่ได้เสียแล้ว คุณครูบอกว่า อยากให้เราเขียนถึงผู้อุปถัมภ์โรงเรียนเนื่องในวันคริสต์มาส...จำได้รางๆ ว่าการ์ดมีต้นไม้สีเขียวทรงสามเหลี่ยม มีตุ๊กตาหมี และกล่องของขวัญสีแดงวางปะปนกันไป
ผ่านไปสัปดาห์เศษ โรงเรียนก็จัดงานวันคริสต์มาส คำอวยพร Merry Christmas ถูกประดับประดาไปทั่วโรงเรียนและฉันก็ได้ไปเต้นแร้งเต้นกาในงานวันนั้นด้วย
ถ้าอย่างนั้นเรามาทบทวนวันคริสต์มาสกันดีกว่าค่ะ
‘คริสต์มาส’ (Christmas) มาจากคำภาษาอังกฤษโบราณว่า ‘Christes Maesse’ หมายถึง ‘การบูชามิสซาของพระคริสตเจ้า’ พบครั้งแรกในเอกสารโบราณปี ค.ศ.1038 ซึ่งเทศกาลนี้ตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม คือวันประสูติของพระเยซู ศาสดาแห่งศาสนาคริสต์ โดยพระองค์ประสูติที่เมืองเบธเลเฮมและเติบโตที่เมืองนาซาเรธ (ปัจจุบันคือประเทศอิสราเอล)
เทศกาลคริสต์มาสจึงเป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู และเป็นการฉลองความรักที่พระเจ้ามีต่อมนุษย์โลก โดยส่งบุตรชาย คือ พระเยซูลงมาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อช่วยไถ่บาป และช่วยให้มนุษย์รอดพ้นจากการทำชั่วนั่นเอง
ดังนั้น ในวันนี้ถือเป็นวันที่มีความหมายสำคัญต่อชาวคริสต์ทั่วโลก มีการส่งบัตรอวยพร ของขวัญ รวมทั้งประดับประดาตกแต่งบ้านเรือนด้วยแสงไฟและต้นคริสต์มาสอย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังเป็นวันแห่งครอบครัว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน มุมใดของโลก ชาวคริสต์จะกลับมาเฉลิมฉลอง รวมญาติ แลกของขวัญ และรับประทานอาหารสุดพิเศษอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
อาหารประจำเทศกาลวันคริสต์มาส
เอ่ยถึงอาหารวันคริสต์มาสทีไร ภาพ ‘ไก่งวง’ ลอยมาเป็นอันดับแรก แต่ในประวัติศาสตร์จริงๆ แล้ว ไก่งวงเป็นอาหารใหม่ที่เข้ามาในประเทศอังกฤษราวๆ ร้อยกว่าปี อาจเพราะตัวโต รับประทานกันได้ทั้งครอบครัวอย่างสนุกสนาน ซึ่งมักรับประทานอาหารร่วมกันในวันที่ 24 ธันวาคม หรือวันคริสต์มาสอีฟ เนื่องจากวันคริสต์มาสถือว่าเป็นวันหยุดพักผ่อน แต่ปัจจุบันเริ่มมีการปฏิบัติแต่ละครอบครัวว่าสะดวกในวันไหนมากกว่า อย่างที่กล่าวไปว่า ไก่งวงอาจไม่ใช่อาหารจานเด็ดของทุกบ้าน
ส่วนเครื่องดื่มจะเน้นไวน์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างแชมเปญ เหล้า หรือเอ้กน็อกประจำฤดูหนาว ซึ่งนิยมดื่มเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายไปในตัว แล้วแต่ละประเทศก็มีอาหารจานเด็ดของเทศกาลนี้...ว่าแต่ชาวอะไร กินอะไร
- อังกฤษ ขาดไม่ได้เลยคือคริสต์มาสพุดดิ้งต้นตำรับ ทำมาจากส่วนผสมของผลไม้แห้งและถั่ว น้ำตาลทรายแดง น้ำเชื่อม เวลาเสิร์ฟจะราดด้วยบรั่นดีและจุดไฟ
- สหรัฐอเมริกา เอ้กน็อก เครื่องดื่มที่ทำจาก ครีม น้ำตาล นมสด ไข่ไก่ ปั่นรวมกัน ก่อนเติมเหล้ารัม เป็นเครื่องดื่มแก้หนาวที่นิยมในเทศกาลนี้จริงๆ
- เบลเยียม Cougnou หรือขนมปังของพระเยซู เป็นขนมปังหวานรูปร่างเหมือนเด็กทารก ซึ่งขนมปังนี้จะถูกแจกจ่ายให้กับเด็กๆ ในเบลเยียม ช่วงเทศกาลคริสต์มาส
- ออสเตรเลีย ขนมปังขิงรูปทรงต่างๆ โดยส่วนประกอบหลักๆ ทำมาจากขิง น้ำผึ้ง หรือกากน้ำตาลแทนน้ำตาลทราย ขนมปังขิงมีหลากหลายแบบ ตั้งแต่เนื้อนิ่มเหมือนเค้กจนไปถึงบิสกิตกรุบกรอบ
- แคนาดา ขนมปังขิงที่นำมาสร้างเป็นรูปบ้านอย่างน่ารัก ประดับตกแต่งอย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังนิยมดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์อีกด้วย
- สาธารณรัฐเช็ก อาหารจานหลักอาจแล้วแต่ครอบครัว แต่ส่วนใหญ่จะรับประทานสลัดมันฝรั่ง และคริสต์มาสคุกกี้
- ฝรั่งเศส เมนูยอดนิยมอย่างฟัวกราส์ หรือตับห่าน รวมไปถึงแซลมอนรมควันและหอยนางรม หรูหราสไตล์ปารีเซียง
- เยอรมนี อาหารจานหลักส่วนใหญ่เป็นห่านย่างทั้งตัวและเนื้อกวาง
- นอร์เวย์ นิยมรับประทาน Lutefisk หรือปลาเนื้อขาวตากแห้ง บางบ้านอาจนำไปดองเกลือ
- อาร์เจนตินา เด่นในด้านทำ Asado เป็นเทคนิคการย่างบาร์บีคิวต่างๆ อาทิ เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อแกะ เนื้อลูกวัว หรือเนื้อลูกหมู
ลุงซานต้ามาจากไหน
เตรียมถุงเท้าหรือยังคะ...ความสนุก น่ารักจากความเชื่อที่ว่าซานตาคลอสจะปีนลงมาตามปล่องไฟแล้วเอาของขวัญใส่ไว้ในถุงเท้า ต้นกำเนิดความคิดนี้มาจากตำนานของนักบุญนิโคลัส ที่ท่านมีน้อง 2-3 คน อาศัยอยู่นอกเมืองในชนบทยากจนมากจนคิดขายตัว พอนักบุญนิโคลัสทราบข่าวจึงคิดช่วยเหลือ คืนหนึ่งก่อนวันคริสต์มาสท่านจึงเดินทางกลับไปที่บ้าน และแอบหย่อนเหรียญทอง 3 เหรียญ ลงไปในรูที่มีไว้ระบายควันจากเตาไฟ ปรากฏว่าเหรียญทั้ง 3 ไม่ได้ตกลงไปหน้าเตาไฟ แต่กลับกลิ้งเข้าไปในถุงเท้าที่พวกเธอแขวนตากไว้ 3 สาวต่างดีใจที่พบเหรียญทองทำให้เธอไม่ต้องไปเป็นโสเภณี
เมื่อเสียงระฆังที่ถูกดังขึ้นในตอนเช้าของวันคริสต์มาสนั้นถือเป็นการเฉลิมฉลองให้กับการกำเนิดของพระเยซู ตามตำนานได้เล่าไว้ว่า เสียงระฆังได้ดังอยู่นานนับชั่วโมงก่อนเวลาเที่ยงคืนของวันคริสต์มาสอีฟ ซึ่งระฆังคริสต์มาสนั้นอาจจะได้ยินเสียงในตอนเช้าของวันคริสต์มาส นอกจากนี้ยังถูกนำไปประดับตกแต่งในการ์ดวันคริสต์มาสและบนต้นคริสต์มาสอีกด้วย
เราลองมาดูมุมมองความเชื่อเกี่ยวกับซานตาคลอสในแต่ละประเทศกันดูนะคะ
![]() |
ฟินแลนด์
เมืองแลปแลนด์ ประเทศฟินแลนด์ หมู่บ้านซานตาคลอสที่มีผู้ตอบรับความฝันของเด็กทั่วโลก ด้วยการเนรมิตรีสอร์ตแสนสวยให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่คุณสามารถตามหาซานต้าตามความฝันในวัยเด็ก หลายสิบปีที่ผ่านมาในหมู่บ้านซานตาคลอสนี้ได้ช่วยเติมเต็มความฝันและสร้างประสบการณ์ได้อย่างแสนประทับใจ ไม่รู้ลืม |
![]() |
ฝรั่งเศส
Père Noël (แปร์ โนแอล) คือผู้นำของขวัญในตำนานวันคริสต์มาสของประเทศฝรั่งเศส หรือพื้นที่อื่นๆ ที่พูดภาษาฝรั่งเศส ชื่ออาจไม่คุ้น แต่อย่างไรก็ตามเครื่องแต่งกายสีแดง เดินทางมาจากขั้วโลกเหนือ พร้อมขบวนกวางเรนเดียร์ก็คือลุงซานต้าของเรานั่นเอง |
![]() |
ญี่ปุ่น
ชาวญี่ปุ่นเชื่อเกี่ยวกับพระญี่ปุ่น Hotei-osho บ้างก็เชื่อว่าเขามีตาอยู่บนหลังศีรษะ บ้างก็เล่าว่าเขาเดินทางด้วยกวางเรนเดียร์จมูกแดง ซึ่งซานตาคลอสของญี่ปุ่นแตกต่างจากเรื่องเล่าต่างๆ ของคริสเตียน เทศกาลคริสต์มาสในญี่ปุ่นจึงไม่ใช่วันสำหรับครอบครัว ไม่มีไก่งวง หรือพุดดิ้งลูกพลัม แต่เป็นวันที่ดี ที่สามารถทำเพื่อผู้อื่นได้ |
![]() |
เนเธอร์แลนด์
ซานตาคลอสชาวดัตช์เป็นผู้สูงอายุเหมือนสมเด็จพระสันตะปาปามากกว่าชายอ้วนท้วมร่าเริง เขาจะสวมเสื้อคลุมโอ่อ่าสง่างาม และจะออกไปพร้อมกับชายที่มีชื่อว่า Black Peter (Zwarte Piet) และยานพาหนะของเขาคือ เรือยนต์ขับเคลื่อนด้วยไอน้ำ |
![]() |
รัสเซีย
ซานตาคลอสของชาวรัสเซียมีลักษณะเป็นชาวรัสเซียน ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและทัศนคติ สวมใส่ชุดโค้ทตัวยาวทั้งสีแดง ฟ้า เงิน และทอง หรือสีอื่นๆ เพื่อให้เหมาะสมตามฤดูกาล และประดับด้วยขนสีขาว ไม่ได้ใส่หมวกสีแดงทรงกรวยเหมือนซานตาคลอสแถบตะวันตก |
ตลาดคริสต์มาสที่ต้องไปเยือนสักครั้ง
หนาวๆ อย่างนี้ในยุโรปคือช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม ในการเยี่ยมชมตลาดคริสต์มาสทั้งบรรยากาศ กลิ่นอันหอมหวานของต้นคริสต์มาส เสียงเพลง ข้าวของสุดพิเศษ ซึ่งตลาดคริสต์มาสเริ่มต้นที่ประเทศเยอรมนี ตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 16 โดยชาวไร่ ชาวนา และชนชั้นกรรมกรได้นำสินค้ามาขายในช่วงเวลานี้ และสืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น กลายเป็นตลาดกลางแจ้งที่เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย ต่อมาจึงได้แพร่หลายไปทั่วยุโรป
![]() |
เมือง Strasbourg ประเทศฝรั่งเศส ตลาดคริสต์มาสที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป มีกว่า 300 ร้านค้า รวมไปถึงประเพณีอันเก่าแก่ที่อนุรักษ์เอาไว้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เรายังได้สนุกไปกับคอนเสิร์ตที่จะมาแสดงให้ชมกันสดๆ |
![]() |
เมือง Vienna ประเทศออสเตรีย ตลาดคริสต์มาสที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันคึกคัก แต่ยังคงแฝงไว้ด้วยความดั้งเดิมอย่างต้นคริสต์มาส ของขวัญคริสต์มาส เครื่องดื่ม ขนม กิจกรรม งานฝีมือสนุกๆ |
![]() |
เมือง Dresden ประเทศเยอรมนี งานยิ่งใหญ่ที่รวมเอาความแตกต่างของตลาดคริสต์มาส ทั้งเสียงเพลงและคอนเสิร์ต เรื่องราวของคริสต์มาสถูกทำให้มีชีวิตผ่านเรื่องราวบนภาพยนตร์ และนิทรรศการต่างๆ สินค้าก็น่ารัก เหมาะซื้อเป็นของขวัญของฝาก |
![]() |
เมือง Prague สาธารณรัฐเช็ก หลงรักปราก เมืองที่แวดล้อมไปด้วยมนต์เสน่ห์ ยิ่งบริเวณ Old Town Square และ Wenceslas Square จะเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย อย่างของทำมือ เบียร์ตำรับดั้งเดิมของชาวเช็กที่แสนโด่งดัง มีการพาทัวร์เดินชมเมืองและล่องแม่น้ำกันอีกด้วย |
![]() |
เมือง Budapest ประเทศฮังการี หน้าหนาวของที่นี่ตัวเมืองจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ คนที่นั่นจึงตกแต่งด้วยไฟประดับชวนฝัน โดยเฉพาะตลาดที่ Vörösmarty Square มีไวน์ร้อน Forralt Bor ให้ดื่ม |
![]() |
เมือง Brussels ประเทศเบลเยียม ตลาดนี้ดึงดูดผู้คนด้วยร้านค้าสีสันสดใส น้ำหอม ไอเดียของขวัญมากมายที่เราสามารถเลือกซื้อไปเป็นของขวัญในวันคริสต์มาสและปีใหม่ กับบรรยากาศดีๆ และกิจกรรมที่เหมาะสำหรับช่วงเวลาของงานรื่นเริงแห่งฤดูหนาว |
![]() |
เมือง Madeira Islands ประเทศโปรตุเกส สถานที่ที่ชาวโปรตุเกสนิยมเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส คือใจกลางเมืองหลวงฟุงชาล จำหน่ายสินค้า อาหาร และเครื่องดื่มหลากชนิด มีความสนุกสนาน และชมการแสดงจากชนชาวพื้นเมือง |
![]() |
เมือง Nuremberg ประเทศเยอรมนี ตลาดคริสต์มาสเก่าแก่ที่นูเรมเบิร์กอบอวลไปด้วยกลิ่นอันน่าหลงใหลของไวน์ เหล้ารัม อัลมอนด์คั่ว และขนมพื้นเมืองดั้งเดิมของนูเรมเบิร์ก และแสงไฟเล็กๆ ที่ปรากฏอยู่ตามระเบียงโบสถ์ ให้ความอบอุ่นและความสุข |
![]() |
เมือง Helsinki ประเทศฟินแลนด์ ตลาดคริสต์มาสในกรุงเฮลซิงกิถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดของตลาดคริสต์มาสในกรุงเฮลซิงกิ รวบรวมอาหารและเครื่องดื่มรสชาติเยี่ยม ในร้านรวงที่ถูกตกแต่งเป็นกระท่อมอย่างน่ารัก |
![]() |
Manchester ประเทศอังกฤษ คริสต์มาสมาร์เก็ตที่ประดับประดาไปด้วยแสงไฟและต้นคริสต์มาส บรรยากาศของคริสต์มาสมาร์เก็ตคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ทั้งชาวอังกฤษพื้นเมืองและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งร้านเบียร์แบบอุ่น แบบเย็น ที่กระจายกันเปิดอยู่แทบทุกหัวถนนของตลาดคริสต์มาส |